การดูลักษณะ ท่าทางของนักพยากรณ์(หรือหลายคนชอบเรียกว่าหมอดู)
ลักษณะที่พึงจะสังเกตได้มีดังนี้
1 สถานที่ต้องดูแล้วไม่น่ากลัวจนเกินไป หรืออุปกรณ์ตัวช่วยเยอะ เกินไป เช่น หัวกระโหลก ธูป เทียน ที่ดูแล้วมากผิดปกติ (เดี๋ยวท่านจะเสียเงินมาก)
2 อันความจริงแล้ววิชาการพยากรณ์ต่างๆ ต่างก็ต้องเรียนมาจากตำราที่ครูบาอาจารย์ ท่านได้เขียนเอาไว้ เพราะฉะนั้นนักพยากรณ์ที่ถูกต้องก็ต้องร่ำเรียนมาด้วย และภายหลังจึงมาหาประสบการณ์จริง เหมือน คนที่เรียนหนังสือตามทฤษฎี ภายหลังก็ต้องปฎิบัติจริงจึงจะสมบูรณ์ในหลักของวิชา
3 ต้องให้เวลานักพยากรณ์ คำนวณตามหลักวิชาด้วย ภายหลังจึงจะพยากรณ์ ตรงนี้เองที่เราสามารถตรวจสอบนักพยากรณ์่ว่ามีหลักวิชาหรือเปล่า ไม่ใช่ว่ามาหาแล้วสามารถทำนายทายทักเลย โดยไม่ต้องคำนวณ ถ้าพยากรณ์ได้เลย แสดงว่ามีพลังพิเศษ แต่ต้องบอกก่อนว่าความจริงแล้วเป็นเรื่องของจิตใต้สำนึกทั้งสิ้น ที่นัำกพยากรณ์สามารถเชื่อมโยงจนเกิดเป็นความสามารถพิเศษซึ่งในความเป็นจริงก็มีน้อยมากที่มีความสามารถจริง แล้วที่เห็นมีมากและคิดเอาเอง
ถ้าแนะนำควรเลือกนัำกพยากรณ์ที่ใช้หลักวิชาจริงๆ หรือมีตำราอ้างอิง เพราะว่าอย่างน้อย ก็มีแนวโน้มเป็นสถิติซึ่งถือะเป็นหลักการทางวิทยาศาสตร์
เมื่อรับพยากรณ์แล้วต้องเช็คผลด้วยว่าตรงประเด็นมากน้อยเพียงใด บางครั้งการพยากรณ์ไปล่วงหน้าเราต้องรอดูผลด้วยว่าความเป็นจริงเป็นอย่างไร
บางท่านคาดหวังว่าผลการพยากรณ์มากเกินไป เช่นคาดหวังให้ถูกต้อง 100% ซึ่งความเป็นจริงนั้นเป็นไปแทบไม่ได้เลย แต่ถ้ามีจริงก็บอกด้วย
โดยหลักการแล้วทุกวิชาจะต้องมีสถิติเหมือนกันว่านักพยากรณ์อากาศ บอกว่าฝนจะตกวันนี้ ก็ต้องมีเหตุผลอย่างอื่นเอามาประกอบจึงพยากรณ์ออกมาเช่นนั้น แต่ความเป็นจริงแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะูถูกต้อง 100% ฉันใดก็ฉันนั้น นักพยากรณ์ชะตาชีวิืตก็เช่นกัน การที่พยากรณ์ได้ถูกต้อง 70% ก็คือว่าอยู่ในขั้นเก่งกาจแล้ว (หมายความว่าพยากรณ์ใครก็ตามก็จะถูกต้อง 70%ทุกคน) แต่ถ้าพยากรณ์ได้มากกว่า 70% ขึ้นไปก็ต้องถือว่าอยู่ในขั้นเทพ ซึ่งต้องผ่านประสบการณ์มาหลายปีและจะต้องเป็นนักเก็บสถิติด้วย ไม่ได้นั่งเทียนอย่างเดียว
วันที่: Wed Jan 15 18:19:53 ICT 2025
|
|
|